ผู้ช่วยศาสตราจารย์คณะบริหาร ม.Rikkyo บอก
วันก่อนพูดกับเหล่าหัวหน้าบรรณาธิการสื่อต่างๆ
แล้วเขาบอกว่า
ดาราที่ออกมาดังได้แล้วเหลิงตัวจนเสียคนนั้น
จะมีจุดร่วมอยู่อย่างหนึ่ง
ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องความหยิ่งผยองหรือโลภ
แต่เป็นเรื่องการมองผิดว่า
ใครคือคนที่คุณห้ามทรยศเด็ดขาดต่างๆหาก
--------------------------------------
เสร็จแล้วก็มีชาวทวิตมาคอมเม้นท์เสริมตัวอย่างกัน
มีพวกไอด้อลที่ตอนไม่ดังก็อ่อนน้อมถ่อมตนอยู่
ใครติดต่อไปขออินเตอร์วิวก็ดีใจกัน
แต่พอดังแล้วก็เหลิง
มาบอกว่าฉันไม่ไปลงให้นิตยสารระดับคุณหรอกนะ
เหมือนพวกวงนักดนตรี
ที่พอดังแล้วก็นอกใจภรรยาสินะ
ใช่ๆ ยิ่งคนที่เขาดูแลคนอื่นดีเท่าไหร่
เขาจะไม่ยอมการทรยศเท่านั้น
เหมือนฉินซีฮ่องเต้
ที่พอขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้วก็ฟังแต่พวกขันที
และอื่นๆ
------------------------------------------------
------------------------------------------------
------------------------------------------------
ส่วนที่อยู่หลังจากนี้เป็นโพสต์บ่นส่วนตัวครับ
อยากจะเขียนมาสักพักแล้ว
พอดีมีเรื่องนี้ขึ้นมา เลยร่วมพูดด้วยเลย
ในพักนี้ผมคิดว่าหลายคงจะได้เห็นคนดังจำนวนมาก
ที่ในสมัยก่อนเราชื่นชม
แต่พอมาสมัยนี้กลับผิดหวัง
ที่เขาทำตัวไม่สมกับความเคารพที่เคยมีให้เขา
หรือไม่อยากเชื่อว่าคนดังขนาดนี้ทำไมถึงปัญญาทึบได้ขนาด
แล้วก็มาเป็นดราม่าอยู่เรื่อยๆ
------
ซึ่งผมก็อยากจะพูดครับว่า
.............. คุณเข้าใจผิดแล้ว
เขาไม่ได้ทำตัวแย่ลงหรือโง่ขึ้น
เรื่องมันแค่มีอยู่ว่า
ความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเขา
มันถูกเผยออกมาได้ง่ายกว่าในปัจจุบันต่างหาก
---------------------------------------
ที่ผมจะพูดจากนี้เหล่าคนที่อายุต่ำกว่า 20 อาจไม่เข้าใจกัน
ในสมัยก่อนนั้นการออกสื่อเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก
เป็นยุคที่ไม่มีสมาร์ทโฟนหรืออินเตอร์เน็ต
และแน่นอนว่าไม่มีช่องทาง SNS
อย่าง Youtube หรือ Facebook ด้วย
การที่คุณจะเป็นดารานักแสดงได้
คุณจะต้องยอมอยู่ใต้ความเมตตาของเจ้าของสื่อและนายทุน
ที่จะยอมให้คุณมาออกสื่อในสังกัดของเขาได้
และในเมื่อคุณอยู่ใต้เขาแล้ว
คุณก็มีพันธะที่จะต้องแสดงออกในการกำกับของเขา
ไม่อย่างนั้นแล้วเขาก็จะไม่มอบงานให้คุณ
และอนาคตในฐานะดาราของคุณก็จะดับไป
ทำให้ดาราในสมัยนั้น
เน้นย้ำกันเรื่องของภาพลักษณ์กันมาก
......... แต่
หน้าที่ของสื่อนั้นไม่ใช่การนำเสนอความคิด
หน้าที่ของเขาคือการขายความนิยม
เพื่อให้มีสปอนเซอร์มาลงทุนให้กับเขา
จึงต้องมีการคัดคนที่จะมาเป็นดาราอย่างดี
ว่าจะไม่ทำเรื่องโง่ๆหรือเสื่อมเสียให้ตัวเองเดือดร้อน
ทำให้ดาราและสื่อต่างๆ
จะไม่ทำเรื่องที่ถือว่าขัดกันกับกระแสของสังคม
ณ เวลานั้นๆกันมากนัก
-------------------
ซึ่งเรื่องนี้ก็รวมถึงสื่ออื่นๆเช่นงานเขียนด้วย
ทำให้ผลงานที่ออกมาสู่ตลาดได้
จะไม่ค่อยมีสิ่งที่พลิกความคาดหวังของสังคม
-------------------------------
แต่หลังจากที่วิทยาการสื่อนั้นพัฒนาขึ้น
อำนาจในการต่อรอง
มันไม่ได้อยู่ที่นายทุนเจ้าของสื่อเจ้าเดียวอีกต่อไป
เพราะใครๆก็สามารถเสนอตนเข้าสู่พื้นที่สาธารณะได้
ทำให้ดาราที่เคยอยู่ใต้การกำกับของนายทุน
นั้นเป็นอิสระในการเสนอตนมากขึ้น
และเป็นเหตุให้ตัวตนที่แท้จริงของเขานั้น
เป็นที่เปิดเผยออกมา
คือสมัยก่อนนั้น เราจะเห็นแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีของเขา
ไม่ได้เห็นเรื่องความคิดหรือสติปัญญาที่เป็นของเขาจริงๆ
แต่ในสมัยนี้เราสามารถเห็นกันได้ง่ายขึ้น
---------------------------------
ในวงการผลิตสื่อจะมีคำพูดกันอยู่ครับว่า
ถ้าคุณรักสื่อประเภทไหน ก็อย่ามาทำงานสื่อนั้นๆ
หรือถ้าคุณชื่นชอบผลงานของใคร
ก็อย่าไปรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวผู้สร้างเลย
เพราะคนที่จะมาทำงานสื่อกันนะ
ต่างก็มีความไม่ปกติกันในระดับหนึ่งทั้งนั้น
และยิ่งเขาดังได้เท่าไหร่
ก็ยิ่งแสดงว่าเขาต้องมีอะไรที่ประหลาดกว่าชาวบ้าน
แล้วเรื่องมันก็จะมีอยู่ว่า
คุณจะสามารถรับไอ้ความประหลาดนั้นกันได้เท่าไหร่
และ ........
คุณสามารถแยกผู้สร้างผลงาน
กับผลงานออกจากกันได้หรือไม่?
เพราะถ้าคุณทำไม่ได้
แล้วคุณเริ่มเกลียดตัวตนของผู้สร้างผลงานขึ้นมา
คุณจะเริ่มเกลียดผลงานนั้นขึ้นมาด้วย
ไม่ว่าผลงานนั้นจะดีขนาดไหนก็ตาม
-----------------------------------
ถ้าจะยกเรื่องเก่าหน่อย ก็เรื่องผลงานทมยันตี
................... ซึ่ง
โอเค ...... เราไม่เถียงเรื่องที่คุณเกลียดชังตัวตนของเขา
แต่ผลงานแต่ละชิ้นจะดีหรือเลวยังไง
จริงๆมันต้องเอามาโละวิเคราะห์แยกจากกัน
ว่ามีอะไรบ้างที่ดีหรือไม่ดีในหลักการไหน
ตรงไหนดีก็ว่าดีไป
ตรงไหนเลวก็ว่าเลวไป
แต่เมื่อคุณแยกการเชื่อม
คนเขียนกับผลงานออกจากกันไม่ได้
งานทุกชิ้นของเขามันก็เลยกลายเป็นผลงานที่เลวโดยปริยาย
--------------------------------
หรือถ้าจะให้ร่วมสมัยหน่อย
ก็พวกคนวาดตัวละครสาวอึ๋มๆ
พวกคนคอสแนววาบหวิว
หรือไม่ก็พวกมนุษย์เซลฟี่ไลฟ์สไตล์
ที่พอเห็นงานพวกเขาแต่ละทีแล้ว
ก็ช่วยทำให้คุณมีกำลังใจในการใช้ชีวิตขึ้นมาบ้าง
.................... แต่ ......................
พอคุณรู้จักตัวจริงของผู้สร้างผลงานแต่ละคนขึ้นมา
คุณอาจจะเริ่มเสพผลงานของพวกเขาไม่ได้กัน
เช่นบางคนภาพลักษณ์ใช้ชีวิตหรู
แต่ไม่อาบน้ำ แถมบ้านนี่รกเป็นรังหนูบ้าง
วาดสาวน้อยโมเอะน่ารัก
แต่ตัวจริงเป็นลุงน้ำหนักเกินบ้าง
และอื่นๆ
ซึ่งผลงานที่ออกมากับตัวตนที่แท้จริงนั้น
มันต่างกัน 180 องศาเลย
ทำให้ยิ่งคุณเชื่อมโยงคนสร้างกับผลงานเข้าด้วยกันเท่าไหร่
คุณก็จะยิ่งชื่นชอบผลงานนั้นไม่ได้เท่านั้น
---------------------------------------
ซึ่ง .......... คุณจะสังเกตุเห็นได้นะครับว่า
คนที่เขาเปิดเผยตัวตนจริงๆออกมานะ
มันจะมีแค่ไม่กี่คน
ถ้าเป็นพวกนักวาดนี่
ต่อให้ออกมาพูดอะไร
ส่วนใหญ่ก็อยู่หลังกล้องกันทั้งนั้น
นั่นเป็นเพราะมนุษย์เรานะ
ไม่มีใครที่มันเพอร์เฟค
ไม่มีใครที่สามารถ
ทำตนให้เป็นที่ชอบใจคนทุกคนทุกเรื่องได้อยู่แล้ว
แต่ขอเพียงเขาไม่เอาตัวตนจริงๆของเขา
ออกมาเป็นภาพลักษณ์ภายนอก
คุณก็จะรับรู้เรื่องที่คุณแขยงไม่ได้
และสามารถชื่นชอบผลงานของเขาออกไปได้ต่อ
ฉนั้น
ถ้าคุณเป็นคนจำพวกที่แยกผู้สร้างกับผลงานออกมาไม่ได้จริงๆ
คุณจะมีความสุขกับการเสพสื่อมากกว่า
ถ้าคุณจะไม่สนและลืมตัวตนของผู้สร้างผลงานนั้นออกไปครับ
---------------------------------------
---------------------------------------
หมายเหตุ
เจ้าของเพจนี้ไม่เคยปิดตัวตนสู่สาธารณะ
หรือบิดเบือนภาพลักษณ์แต่แรกแล้ว
ผมเขียนแต่เรื่องที่ผมอยากจะพูด
คุณจะไม่ชอบผมก็เรื่องของคุณ
มันไม่ใช้หน้าที่อะไรของผมเลยที่จะต้องทำตามใจคุณ
เพราะคุณเองก็ไม่ใช่นายจ้างผม
ถ้าคุณอยากให้ผมเขียนอะไรตามใจคุณ
กรุณาเอากองเงินมาวางหน้าผมด้วยครับ